วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2562

ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน ต้นกำเนิดแห่งเทพนิยายWalt Disney



เรื่องราวจากประวัติศาสตร์

     ในโลกFATEนั้นวีรชนจะเป็นเซอร์แวนท์ที่คอยช่วยเหลือมาสเตอร์โดยส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการรบทัพจับศึก แต่ก็มีวีรชนบางคนที่ไม่ได้มีความสามารถทางการรบ วันนี้ผมจะมาพูดถึงคนหนึ่งที่มีชื่อเสียดังกระฉ่อน แต่ไม่เกี่ยวข้องกับศึกสงครามแม้แต่นิ๊ดเดียว วีรชนที่มีตันตนในโลกจริง วีรชนที่ไม่ได้มีชื่อเสียงในการรบแต่มีชื่อเสียงด้านงานเขียน "ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน" นั่นเอง

     "ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน" หรือ แอนเดอร์เซน เป็นนักเขียนชาวเดนมาร์ก ผู้ที่เขียนหนังสือเอาไว้มากมาย ทั้งบทละคร นวนิยาย หนังสือท่องเที่ยว แต่สิ่งหนึ่งที่โด่งดังที่สุดในงานเขียนของเขาคือ นิทานเทพนิยายของเค้าเป็นงานเขียนที่กูกแปลบ่อยที่สุด และถูกหยิบยกนำมาใช้ในสร้างสร้างละคร ภาพยนต์ หรือการตูนอนิเมชั่นจนโด่งดังไปทั่วโลก

     พูดถึงประวัติของชายผู้นี้สักเล็กน้อย แอนเดอร์เซนเป็นชายเกิดที่สลัมยากจน พ่อเป็นช่างทำรองเท้า หน้าตาของเขานั้นก็ไม่ได้ดีเด่อะไรจึงมักถูกเพื่อนๆแกล้งเป็นประจำ ซึ่งนี่ก็เป็นอีกเหตุผลให้แอนเดอร์เซนเริ่มใช้เวลาอยู่กับตัวเองและเริ่มสร้างจินตนาการด้วยเล่นกับหุ่นละครเชิด พอเขามีอายุขึ้นมาหน่อย เค้าก็ออกไปแสวงโชคตามความฝันของตนเอง ด้วยการเขียนบท เล่นละคร เต้นรำ และเขาก็มีความฝันที่อยากเป็นอุปรากรที่กรุงโคเปนเฮเกน แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะไม่มีใครยอมรับเค้า เพราะทั้งหน้าตาและประสบการณ์ที่ยังไม่เพียงพอ

     ในวันหนึ่งนั้นเขาก็ได้รับโอกาสที่จะเป็นที่รู้จักของผู้คน โจนาส คอลลิน ผู้กำกับและรัฐมนตรีกระทรวงการคลังในขณะนั้น เห็นแววการแต่งบทละครของเค้า จึงรับเลี้ยงและส่งเสียจนกระทั่งเรียนจบ แต่ทว่าตอนเข้าเรียนเค้าต้องไปเรียนกับเด็กเล็ก จนถูกใครๆล้อแล้วล้ออีก แม้กระนั้นเค้าก็อดทนจนจบมหาวิทยาลัยมาได้

     แอนเดอร์เซนมุ่งหน้าทำในสิ่งที่ชอบในฐานะนักเขียนบทละคร แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ประกอบกับหนังสือรวมนวนิยายเล่มแรกของเขาโดนวิจารณ์ไปทางลบ เสียส่วนใหญ่ ซึ่งเขาเองก็ยอมรับคำวิจารณ์เหล่านั้นไว้แม้จะมีความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่หยุดสร้างนิทานสำหรับเด็ก

     เขาเริ่มเขียนนิทานขึ้นมาอีกครั้งโดยนำเรื่องพื้นบ้านมาเล่าใหม่ด้วยสำนวนการเขียนที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน คือการใช้ภาษาพูดมาบรรยายถึงจินตนาการที่ฝังไปด้วยคุณธรรม ความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนมนุษย์ และแอนเดอร์เซนมักจะสอดแทรกประสบการณ์ของตัวเขาเองลงไปในเนื้อเรื่องในบางครั้ง

     ครั้งนี้แอนเดอร์เซนเป็นฝ่ายที่ครอบครองหัวใจของผู้อ่านไว้ได้ เนื่องจากเรื่องราวของเขาสามารถจับอารมณ์ที่อ่อนไหวของผู้อ่านบางกลุ่มได้อย่าอยู่หมัด แถมยังช่วยเปิดมุมมองอีกด้านที่ผู้อ่านคาดไม่ถึงอีกด้วย เขายังเป็นสื่อแทนผู้ด้อยโอกาสทุกคน เพื่อให้ได้รับความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันสิ่งที่สำคัญที่สุดของนิทานของเขาก็คือ ใช้นิทานเป็นกุศโลบายที่ตั้งใจปลูกฝังความคิดที่ดีแก่เด็กตั้งแต่เยาว์วัย ไม่ให้เติบใหญ่ไปทำร้ายความรู้สึกของผู้อื่น และในระหว่างนั้นก็สะท้อนให้ผู้อ่านรุ่นใหญ่ได้รับรู้ความผิดพลาดของตนและนำมาเพื่อปรับปรุงตัว ก่อนจะออกไปสอนเด็ก

     ในด้านความรักแอนเดอร์เซนไม่เคยสมหวังในความรักเลยแม้ซักครั้ง ไม่ว่าจะหลงรักหญิงคนใดๆ ก็มีอันต้องลาจากหรือพลัดพรากจากกันไป นี่อาจจะเป็นเหตุผลอย่างหนึ่งที่เรื่องราวของนิทานทั้งหลายของเขาดูหม่นหมองกว่านักเขียนท่านอื่น

     งานเขียนของเขาที่ไม่ใช่นิทานอาจจะเป็นผลงานระดับนักเขียนทั่วๆไป แต่หากในด้านนิทานแล้ว เขาก้าวไปถึงขั้นเยี่ยมยอดไร้ที่ติ กล่าวกันว่านิทานของเขาเป็นบรรณาการยิ่งใหญ่จากเดนมาร์กแก่โลกวรรณกรรม ฐานะเทียมเท่าโฮเมอร์, ดันเต, เชกสเปียร์, เซร์บันเตส และเกอเทอ เลยทีเดียว

     นิทานของแอนเดอร์เซนนั้นได้แก่ ทัมเบลินา,ต้นสน ,เด็กหญิงไม้ขีดไฟ, เจ้าหญิงเงือกน้อย, ราชินีหิมะ, ไนติงเกล, กล่องชุดจุดไฟ, ลูกเป็ดขี้เหร่ , ชุดใหม่ของพระราชา และมีนิทานอีกหลายเรื่องที่ถูกนำมาทำใหม่เป็นอนิเมชั่นโด่งดังจบจวนทุกวันนี้

     นิทานของเขามักจะถูก Walt Disney นำไปทำเป็นการ์ตูนอนิเมชั่น และโด่งดังจนเด็กๆรู้จักกันทั่วโลก

เรียบเรียงโดย แอดมินเกลือ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น