วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2562

เพนธีซิเลียราชินีแห่งชนเผ่าอเมซอน

เพนธีซิเลีย (Penthesilea) ราชินีแห่งชนเผ่าอเมซอน

     กลับมาอีกครั้งกับการเล่าประวัติของเซอร์แวนท์ผ่านหน้าประวัติศาสตร์หรือตำนาน ก่อนหน้านี้ผมก็เคยได้เล่าเกี่ยวกับเซอร์แวนท์หญิงที่เป็นวีรสตรีไปบ้างแล้ว และวันนี้ก็ผมจะมาเล่าประวัติเกี่ยวกับเซอร์แวนท์อีกคนที่เป็นหญิงเช่นกันซึ่งครั้งนี้เธอคือราชินีของชนเผ่านักรบสตรีอมาซอนซึ่งมาจากในตำนานกรีกนั่นเอง ชื่อของเธอก็คือเพนธีซิเลียราชินีแห่งชนเผ่าอเมซอน

     เช่นเคยนะครับเรื่องราวที่ผมบอกเล่านี้จะเป็นการบอกเล่าจากตำนานกรีกโดยไม่อ้างอิงจากเนื้อเรื่องในเกม

     ว่ากันว่าราชินีเพนธีซิเลียเป็นธิดาของเทพเจ้าแห่งสงครามอารีสแห่งเขาโอลิมปัสกับราชินีโอเทรราผู้ก่อตั้งชนเผ่าอเมซอนโดยมีพี่น้องร่วมสายเลือดคือ ฮิพโพลิตา,อันติโอปีและเมลานิพปีโดยเพนธีซิเลียนั้นเป็นน้องคนสุดท้องจากพี่น้องที่มีกันเพียง4คน

     บางตำนานได้กล่าวถึงตัวเธอซึ่งเกี่ยวข้องกับ12มหาภารกิจของวีรบุรุษเฮราเครส (Heracles)ซึ่งเป็นตอนที่เฮราเครสต้องไปนำเข็มขัดทองคำของฮิพโพลิตามามอบให้ยูริทัส ซึ่งเฮราเครสได้เจรจากับฮิพโพลิตาจนสำเร็จและเตรียมจะนำเข็มขัดทองคำนี้ไปมอบให้ยูริทัสอยู่แล้วทว่าเฮร่า(Hera)ราชินีแห่งสวรรค์ผู้ชิงชังตัวเฮราเครสก็ได้ยุยงให้ชาวอเมซอนคิดว่าเฮราเครสจะทำร้ายราชินีของพวกนางการต่อสู้แบบตะลุมบอนจึงเกิดขึ้นและด้วยความชุลมุนนั้นฮิพโพลิตาจึงเสียชีวิต ซึ่งนี่เป็นเหตุให้เพนธีซิเลียเสียใจอย่างที่สุดและปรารถนาที่จะตายตกไปตามกันไปกับพี่สาวของตนแต่ตามธรรมเนียมของอเมซอนนั้นการฆ่าตัวตายเป็นสิ่งที่หน้าละอายหากยังต้องการรักษาเกียรติและศักดิ์ศรีเอาไว้นั้นนับรบอเมซอนจะต้องตายในสนามรบเท่านั้น


     ซึ่งบางตำนานได้กล่าวว่า ฮิพโพลิตาเสียชีวิตในระหว่างการล่ากวางโดยความผิดพลาดในการขว้างหอกของเพนธีซิเลีย ซึ่งสิ่งเดียที่เหมือนกันในสองตำนานนี้คือ ความตายของฮิพโพลิตาทำให้เพนธีซิเลียปรารถนาที่จะตายตกไปตามกันไป ซึ่งก็เหมือนอย่างที่ผมได้อธิบายไว้ข้างต้นตามธรรมเนียมของชาวอเมซอนการฆ่าตัวตายนั้นเป็นเรื่องน่าละอายดังนั้นนางจึงเลือกหาสนามรบที่เหมาะสมและคู่ควรที่นางจะตายซึ่งในที่สุดนางก็เลือกสงครามกรุงทรอยเป็นสถานที่ตายของนาง

     ราชาไพรอัมแห่งทรอยหลังจากเสียเฮ็คเตอร์บุตรชายที่รักยิ่งของตนไปจากการต่อสู้กับอคิลลิสได้ขอความช่วยเหลือจากราชินีเพนธีซิเลีย ราชินีเพนธีซิเลียนอกจากจะหาสถานที่ตายเพื่อรักษาเกียรติของตนแล้วหล่อนยังเกลียดอคิลลีสอยู่ตั้งแต่แรกทั้งจากชื่อเสียงแห่งความยะโสโอหังของเขาและพฤติกรรมน่ารังเกียจที่ทำกับศพของเฮ็คเตอร์ด้วยนางจึงตกลงที่จะช่วยเหลือราชาไพรอัมแห่งทรอย ว่ากันว่าเธอนำกองกำลังนักรบชาวอเมซอนเพียง 12 คน เข้าจู่โจมกองทัพกรีกที่กำลังฮึกเฮิมจากชัยชนะด้วยความรวดเร็วประดุจสายฟ้าแลบ ขุนศึกและทหารกรีกหลายคนถูกเธอและกองกำลังเพียงหยิบมือปลิดชีพ ยอดฝีมืออย่างอะแจ๊กซ์ที่เข้ามาช่วยเหลือเองก็พ่ายแพ้ไม่เป็นท่าจนร้อนถึงอคิลลิสต้องมาปราบนางด้วยตนเอง

     การต่อสู้ของเพนธีซิเลียกับอคิลลิสมีอยู่สองตำนาน ตำนานแรกคือทั้งสองต่อสู้กันนานเหมือนครั้งที่อคิลลิสสู้กับเฮกเตอร์แต่ท้ายสุดเธอก็ต้องพ่ายแพ้ไปในที่สุด(อคิลลิสนั้นมีความคงกระพันหากไม่โจมตีไปที่ข้อเท้าก็ไม่มีวันฆ่าเจ้าหมอนี่ได้) และอีกตำนานหนึ่งกล่าวไว้ว่าอคิลลิสที่เข้าปะทะเพนธีซิเลียข้างหอกของเขาปลิดชีพเธอในทันที ซึ่งหลังจากที่เพนธีซิเลียเสียชีวิตอคิลลิสก็เข้ามาเปิดหมวกเกราะของเธอออกซึ่งก็ตกตะลึงที่เห็นว่าเพนธีซิเลียที่เป็นสตรีเพศและยังรู้สึกผิดที่ฆ่าผู้หญิงอีกด้วย ทว่าบางตำนานได้กล่าวไว้ว่าอคิลลิสเกิดหลงไหลในความงามของนางจึงนำร่างของนางกลับไปที่พักของตน

     ผมจะไม่ขออธิบายประวัติส่วนนี้ต่อมากเพราะจะกลายเป็นลามเข้าไปในประวัติของอคิลลิสแทน โดยผมจะขออธิบายเกี่ยวกับตัวเพนธีซิเลียต่ออีกสักนิดโดยแม้ว่าเธอจะตายไปแล้วร่างของเธอก็ยังสร้างความโกลาหลให้กับทัพกรีกอยู่ เมื่อแม่ทัพหลายคนของกรีกได้เห็นพระศพพวกเขาก็หลงไหลในความงามของนางเช่นกันจึงได้พยายามยามแย่งชิงพระศพ ทำให้กลายเป็นการทะเลาะวิวาทของคนในกองทัพเดียวกันซึ่งเป็นโอกาสให้ปารีสใช้ธนูยิงไปที่เอ็นร้อยหวายของอคิลลิสจนเสียชีวิต ซึ่งในบางตำนานนั้นไม่มีเหตุการทะเลาะวิวาทแย่งชิงพระศพของราชินีเพนธีซิเลียแต่อคิลลิสนั้นเป็นคนนำพระศพของราชินีเพนธีซิเลียไปเองและเมื่อตกแต่งพระศพให้เสร็จแล้วเขาก็ทำพิธีเผาพระศพให้อย่างสมเกียรติตามธรรมเนียม

     นับว่าเป็นอีกหนึ่งวีรสตรีซึ่งแม้จะตายก็ตายได้สมศักดิ์ศรีของนักรบเรื่องราวของตัวเธอถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ฟันเฟืองตัวหนึ่งของมหากาพย์อีเลียดของกรีกแต่ก็ถือว่าเป็นบุคคลที่สำคัญเลยทีเดียวซึ่งตัวเธอนั้นยังได้ปรากฏอยู่ในภาพยนต์ต่างๆที่มีความเกี่ยวข้องกับสงครามทรอยอีกด้วย

เรียบเรียงโดย SALT ADMIN
ขอบคุณข้อมูลก่อนการเรียบเรียงจาก
http://runesdivinator.blogspot.com และ http://legendtheworld.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น