วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2562

เซเฮราซาดนักเล่านิทานแห่งนิทานอันเป็นที่รู้จัก"พันหนึ่งราตรี"


     เรื่องราวของวีรบุรุษส่วนใหญ่นั้นมักมีความเกี่ยวข้องกับศึกสงคราม การกอบกู้บ้านเกิดเมืองนอน แต่วันนี้ผมจะพาทุกคนมารู้จักกับวีรสตรีผู้หนึ่งซึ่งมีไม่ได้มีความเก่งกาจทางการศึก ไม่มีคาถาอาคมอันแก่กล้าใดๆ แต่สามารถสร้างวีรกรรมที่ปกป้องชีวิตนับพับนับหมื่นได้ด้วยตัวคนเดียว เซเฮราซาดหรือชาห์เรซาด(Scheherazade)คือนามของเธอคนนี้
     เรื่องราวตรงส่วนนี้ผมจะบอกก่อนนะครับว่าผมจะเล่าในส่วนของเรื่องพันหนึ่งราตรีโดยมิได้อิงจากเนื้อเรื่องในFATE โดยก่อนที่จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวเธอนั้นผมจะขอหยิบยกเกี่ยวกับต้นกำเนิดของเธอเสียก่อนซึ่งตัวเธอนั้นเป็นตัวละครในนิทาน“พันหนึ่งราตรี”หรืออาหรับราตรี นั่นเองซึ่งเรื่องราวนิทานเรื่องนี้นั้นเชื่อกันว่าเกิดขึ้นในราชวงศ์อับบาซิดแห่งแบกแดด ซึ่งเป็นยุคที่กรุงแบกแดดเป็นศูนย์กลางการค้า ซึ่งทั้งชาวเปอร์เซีย จีน แอฟริกา และชาวยุโรปต่างหลั่งไหลกันไปที่นั่น ผู้คนที่แตกต่างชาติพันธ์ุเหล่านี้ไม่เพียงแค่ทำมาค้าขาย แต่พวกเขายังนำความรู้ ภูมิปัญญา วัฒนธรรมต่างๆมารวมกันที่แบกแดดอีกด้วย และหนึ่งในนั้นก็คือนิทานพื้นบ้านนั่นเอง นิทานพื้นบ้านเรื่องแล้วเรื่องเล่าที่ชาวต่างชาติได้เล่าให้ชาวแบกแดดฟังนั้นทำให้ชาวแบกแดดได้สั่งสมเรื่องเล่าจากนิทานเหล่านี้เอาไว้และนำมาเล่ากันปากต่อปาก กระทั่งในรัชสมัยกาหลิบ ฮารูน อัล-ราชิด (14 กันยายน ค.ศ. 786 - 24 มีนาคม ค.ศ. 809) ได้มีการรวบรวมนิทานต่างๆ ไว้ในที่เดียวกันโดยเขียนเป็นภาษาปาลาวี, ซาสซานิด และเปอร์เซีย ภายใต้ชื่อ ฮาซาร์ อัฟซานา หรือ ‘บันทึกตำนานหนึ่งพัน’ ซึ่งหลังจากรัชสมัยของกาหลิบ ฮารูน อัล-ราชิด ซึ่งก็ราวๆประมาณปี ค.ศ. 850 ก็ได้มีนิทานที่เล่ากันปากต่อปากเป็นภาษาอารบิกเกิดขึ้น ชื่อ อัฟ เลย์ลา วา เลย์ลา ซึ่งแปลว่า ‘หนึ่งพันกับอีกหนึ่งคืน’
     นิทานพันหนึ่งราตรีเป็นเรื่องราวของพระราชาชาห์เรยาร์ด (Shahryārในภาษาเปอร์เซียแปลว่าพระราชาหรือผู้ปกครอง) และมเหสีของตนที่ชื่อเซเฮราซาด(Scheherazade)โดยโครงเรื่องนิทานเรื่องนี้นั้นเป็นนิทานซ้อนนิทาน โดยจะมีเรื่องใหม่ต่อเนื่องเมื่อเรื่องเดิมจบลง พระราชาพระองค์นี้ก็เดิมทีก็มิใช่ราชาที่เหี้ยมโหดใดๆ แต่ในวันหนึ่งพระองค์ก็พบว่ามเหสีของตนนั้นนอกใจโดยชายชู้ก็เป็นทหารคนหนึ่งในวัง วินาทีที่พบว่าความจริงตรงหน้านั้นพระองค์ก็ทรงกริ้วจึงได้สั่งประหารมเหสีและชายชู้ในทันทีพร้อมๆกันนั้นตัดสินว่าสตรีอื่นๆในโลกทุกนางนั้นก็ชั่วร้ายเป็นเหมือนๆกันทุกคน และเรื่องบัดสีของชายโฉดหญิงชั่วก็นำหายนะมาให้สตรีนางอื่นที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เป็นจำนวนมากด้วย
     หลังจากการเสียผู้ที่เป็นมเหสีไปแล้วราชาชาห์เรยาร์ดก็ไม่สนใจสตรีนางอื่นอีก ซึ่งทำให้เหล่าขุนนางต่างกังวลว่าราชบัลลังค์จะว่างลงเพราะไม่มีผู้สืบราชบัลลังก์ต่อ ดังนั้นเหล่าขุนนางจึงขอให้พระองค์ทรงพิจารณาในการคัดเลือกพระมเหสีใหม่ ซึ่งถึงราชาชาห์เรยาร์ดจะไม่ทรงพอพระทัยสักเท่าไหร่แต่พระองค์ก็เลือกที่จะทำตามความเห็นของเหล่าข้าราชบริพาร
     ทว่าแม้การตัดสินใจของเหล่าขุนนางจะทำด้วยความหวังดีแต่กลับก่อผลร้ายกับสตรีบริสุทธิ์อีกหลายร้อยหลายพัน ด้วยเพราะความขุ่นข้องหมองใจจากการที่พระองค์ถูกนอกใจนั้นยังไม่หายดีทำให้จิตใจของราชาชาห์เรยาร์ดยังคงชิงชังสตรีเพศ องค์ราชาได้เริ่มแต่งงานกับหญิงพรหมจารีที่ถูกส่งมาเพื่อเป็นมเหสีและทันทีที่รุ่งอรุณมาถึงสตรีนางนั้นก็จะถูกประหารในทันที เรื่องนี้ทำให้ทั้งขุนนางและประชาชนตื่นตระหนกกันอย่างมาก
     ซึ่งหลังจากนั้นพระองค์ก็เลือกมเหสีผู้โชคร้ายคนใหม่และทำแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยแม้จะเป็นความผิดเพียงเล็กน้อยพระองค์ก็ไม่ให้อภัยใดๆเลย คนแล้วคนเล่าที่เข้าไปในเรือนหอแล้วไปจบลงที่ลานประหาร เหล่าสตรีบริสุทธิ์ผู้ยังรอดชีวิตอยู่ก็รีบแต่งงานมีสามีหรือไม่ก็หนีออกจากดินแดนแห่งนี้จนหมดสิ้น ในที่สุดขุนนางผู้ใหญ่ในราชอาณาจักรซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบก็ไม่สามารถจัดหาสตรีพรหมจารีมาให้พระราชาได้อีก ด้วยเหตุนี้เองเซเฮราซาดบุตรีของขุนนางผู้ใหญ่จึงเสนอตัวเองเป็นเจ้าสาวของราชาแม้ผู้เป็นพ่อจะไม่เห็นด้วย
     อย่างที่ผมได้เล่าไปบ้างแล้วเซเฮราซาดนั้นเป็นเพียงแค่สตรีธรรมดาๆคนหนึ่งที่ไม่ได้มีความพิเศษใดๆเหนือผู้อื่นจะมีเพียงแค่สติปัญญาที่เหนือกว่าสตรีนางอื่นเท่านั้น ในคืนแต่งงานเซเฮราซาดได้ขอให้นางได้เล่านิทานให้น้องสาวคนเล็กซึ่งติดตามเข้าไปในห้องหอด้วยได้ฟังนิทานจากนางเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งราชาก็ยินยอม โดยเมื่อนางได้เริ่มต้นเล่านิทานให้ราชาชาห์เรยาร์ดฟังนิทานของนางทำให้ราชาชาห์เรยาร์ดเกิดความประทับใจและรู้สึกสนุกสนานกับเรื่องราวที่นางเล่าแม้ว่านิทานเรื่องนี้จะเป็นเรื่องยาวก็ตาม ทว่าเมื่อรุ่งอรุณมาถึงนางก็จำเป็นต้องหยุดเล่านิทานไว้เพื่อให้ราชาไปปฎิบัติราชกิจตามปกติซึ่งด้วยความที่องค์ราชาทรงอยากรู้ตอนจบของนิทานพระองค์จึงมิอาจตัดใจและประหารนางได้โดยทรงคิดว่าเมื่อนิทานของนางจบลงวันรุ่งขึ้นของวันนั้นแหละที่พระองค์จะประหารเธอเฉกเช่นเดียวกับสตรีนางอื่น ทว่านิทานของเซเฮราซาดกลับยาวจนเหลือเชื่อซึ่งเรื่องนี้นั้นเกิดขึ้นเพราะนางได้ผูกเรื่องราวหนึ่งไว้กับอีกเรื่องหนึ่งโดยอาศัยการเล่าของตัวละครในเรื่องดังนั้นนิทานของนางจึงไม่มีวันที่จะจบลงง่ายๆ ในคืนที่นิทานเรื่องหนึ่งจบลงนิทานเรื่องก่อนหน้านั้นก็ยังไม่จบและด้วยความรู้สึกที่ค้างคาใจนั้นราชาก็ต้องเลื่อนการประหารนางออกไปอย่างไม่มีกำหนด 
     นิทานที่เชเฮราซาดเล่านั้นมีความหลากหลาย มีทั้งนิทานที่มีเรื่องราวอิงมาจากประวัติศาสตร์ เรื่องของความรัก เรื่องราวที่มีโศกนาฏกรรม นิทานตลกชบขัน บทกวี นิทานล้อเลียน หรือแม้กระทั่งนิทานแนวอีโรติก เรื่องราวหลายเรื่องกล่าวถึงภูติผีปีศาจ สัตว์ประหลาด พ่อมด นักมายากลและสถานที่ในตำนานผสมกับสถานที่ซึ่งมีอยู่จริง ตอนจบของนิทานหลายเรื่องไม่ได้เป็นดังที่องค์ราชาคาดคิด แม้กระทั่งตัวละครบางตัวก็มิได้รับผลดังที่หวังทุกเรื่อง นิทานเหล่านี้เองที่ขัดเกลาหัวใจของราชาที่แตกสลายนี้ให้ฟื้นขึ้นมาทีละน้อยๆจนกระทั่งผ่านไป 1001 คืน
     ว่ากันว่านิทานของเชเฮราซาดนั้นจบลงในคืนที่ 1001 ซึ่งนางเองก็พร้อมรับความตายในรุ่นอรณของวันรุ่งขึ้นแล้วทว่า ราชาชาห์เรยาร์ดกลับเปลี่ยนพระทัยโดยไม่ประหารเชเฮราซาดและแต่งตั้งนางเป็นพระมเหสีของพระองค์
     ทั้งนี้พันหนึ่งราตรีนั้นมีต้นฉบับที่แตกต่างกันอยู่จึงทำให้มีรายละเอียดตอนจบที่ต่างกัน บางต้นฉบับเซเฮราซาดขอให้พระราชาให้อภัย ซึงบางต้นนั้นระบุว่าราชาชาห์เรยาร์ดได้มองไปยังลูกๆของพวกเขาทั้งสองจึงตัดสินใจไม่ประหารเชเฮราซาดและบางต้นฉบับนั้นได้เขียนว่ามีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นทำให้ราชาชาห์เรยาร์ดเปลี่ยนใจ โดยทั้งหมดนั้นลงเอยด้วยการที่พระราชาให้อภัยเชเฮราซาดและไว้ชีวิตนาง
     บางที่ได้ว่ากันว่านิทานเรื่องนี้นั้นแต่งขึ้นมาโดนอ้างอิงจากเรื่องจริง โดยผู้แต่เรื่องนี้นั้นได้สร้างนครและตัวละครสมมุติขึ้นมาโดยไม่ได้มีการระบุไว้ว่า เมืองที่อยู่ในนิทานเรื่องนี้นั้นแท้จริงแล้วคือเมืองใดและยุคสมัยของพระราชาองค์ใด

     ความกล้าหาญของสตรีเพียงคนเดียวนั้นทำให้สตรีมากมายได้รับการช่วยเหลือไว้ แม้ว่าเรื่องนี้เราจะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเป็นแค่นิทานก็นับว่าเธอเป็นวีรสตรีในรูปแบบหนึ่ง ตัวเธอและเรื่องราวของเธอนั้นปัจจุบันถูกตีพิมพ์เป็นนิยาย ภาพยนต์หรือแม้กระทั่งใช้เป็นแรงดลบันดาลใจของนักเขียนในยุคปัจจุบัน

เรียบเรียงโดย SaltAdmin
ขอบคุณบทความก่อนการเรียบเรียงจากpublicpostonline.netและคุณโกมุทอัญมณีแห่งสายน้ำจากbloggang.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น