โซโลมอนราชาแห่งจอมเวทย์ผู้ได้รับสติปัญญาจากพระเจ้า
หากจะพูดถึงราชาที่ในโลกนี้มีกันอยู่มากมายนั้นราชาผู้มีชื่อเสียงมาถึงปัจจุบันนั้นก็มีอยู่เพียงแค่จำนวนหนึ่งเท่านั้น ครั้งนี้ผมก็จะมาเล่าเรื่องราวเช่นกัน ซึ่งคราวนี้นั้นเป็นเรื่องราวของราชาผู้ครอบครองปัญญาของพระเจ้า นั่นก็คือราชาโซโลมอนนั่นเอง
โซโลมอน หรือ ซาโลมอน (ละติน: Solomon; ฮีบรู: שְׁלֹמֹה) มาจากรากศัพท์ S-L-M ที่แปลว่า ความสงบ ในศาสนาอิสลามจะเรียกว่า สุลัยมาน มีฉายาคือ ซาโลมอนผู้ทรงปัญญา และมีชื่ออีกชื่อหนึ่งที่ใช้ในคัมภีร์ฮีบรูก็คือ เจดิดิอา ทรงเป็นราชาองค์ที่สามแห่งอาณาจักรอิสราเอล เล่ากันว่าโซโลมอนนั้นเป็นบุตรของราชาดาวิดและโซโลมอนผู้นี้ก็เป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายก่อนที่อาณาจักรอิสราเอลที่ยิ่งใหญ่จะล่มสลายแตกเป็นอาณาจักรใหญ่น้อยตามประวัติศาสตร์
ราชาดาวิดนั้นเมื่อชราภาพลงก็มีความต้องการที่จะแต่งตั้งรัชทายาทพระองค์ใหม่ขึ้นมา และด้วยความที่ดาวิดนั้นมีพระโอรสอยู่หลายพระองค์นั่นจึงทำให้เกิดการแย่งชิงราชสมบัติในอิสราเอลขึ้น แต่สุดท้ายราชาดาวิดก็ได้แต่งตั้งซาโลมอนเป็นราชาพระองค์ใหม่ ว่ากันว่าในระหว่างที่โซโลมอนทรงบรรทมราชาโซโลมอนได้พบกับพระเจ้าซึ่ง พระเจ้าก็ให้โซโลมอนขอในสิ่งที่ต้องการทว่าพรที่โซโลมอนนั้นจะคงอยู่กับตัวโซโลมอนตราบเท่าที่ราชาโซโลมอนยังเชื่อฟังและศรัทธาในพระองค์เท่านั้น ซึ่งส่วนของพรข้อนั้นโซโลมอนได้ขอไปว่า "ขอสติปัญญาและความรู้ที่จะปกครองประชาชนอย่างยุติธรรมและด้วยความเฉลียวฉลาด" ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าที่พอพระทัยกับคำขอพรนั้นจึงประทานสติปัญญาและความเข้าใจแก่โซโลมอนและยังสัญญาว่าจะมอบความมั่งคั่ง, มีเกียรติยศ, และชีวิตยืนยาวให้อีกด้วย
(ว่ากันว่าพระเจ้าพึงพอใจกับคำตอบของโซโลมอนเนื่องจากเขาไม่ได้ขอพรที่เห็นแก่ตัวอย่างความเป็นอมตะหรือความพินาศของศัตรู)
และเมื่อได้รับฐานะราชามาแล้วราชาซาโลมอนได้เป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาณาจักรแล้วเขาก็เริ่มภารกิจแรกของเขาในทันที นั่นก็คือการกำจัดฝ่ายตรงข้าม ทั้งประหารพี่น้องตนเอง แม่ทัพโยอาบคนสนิทของพระบิดารวมทั้งขับไล่ปุโรหิตอาบียาธาร์ ออกจากอาณาจักรของพระองค์ จากนั้นก็แต่งตั้งให้เพื่อนฝูงญาติมิตรมีอำนาจในราชสำนัก ทั้งฝ่ายพลเรือนและทหาร กองทัพของซาโลมอนในเวลานั้นมีความเข้มแข็งขึ้นอย่างมากโดยเฉพาะกองทหารม้าและกองรถม้า พระองค์ได้จัดตั้งนิคมขึ้นจำนวนหลายแห่งทั้งนิคมการค้าและค่ายทหาร ซึ่งหลังครองราชย์ได้สี่ปีพระองค์ก็ได้สร้างวิหารหลังแรกขึ้นคือวิหารแห่งซาโลมอน การค้าขายระหว่างประเทศดำเนินไปอย่างรุ่งเรืองในรัชสมัยพระองค์ พระองค์ได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นราชาอิสราเอลที่มั่งคั่งที่สุดที่ถูกกล่าวถึงในพระคัมภีร์
เรื่องราวในตำนานหนึ่งซึ่งทำให้เห็นถึงสติปัญญาของราชาโซโลมอนนั้นมีเรื่องหนึ่งที่ถูกหยิบยกขึ้นมาบ่อยที่สุด เรื่องราวนี้คือคดีความที่โซโลมอนต้องตัดสินโดยที่มีสตรีสองคนอ้างสิทธิว่าเป็นแม่ที่แท้จริงของเด็กทารกคนหนึ่ง เมื่อพิจารณาแล้วซาโลมอนก็ทรงพิพากษาคดีอย่างง่าย ๆ โดยการตัดสินให้ตัดเด็กทารกออกเป็นสองส่วนแบ่งให้สตรีทั้งสองคนเสีย ทันใดนั้นสตรีคนหนึ่งก็ยอมถอนตัวทันที เธอกล่าวว่าเธอขอยอมแพ้เสียดีกว่าให้เด็กถูกฆ่าตาย ทว่าในศาลนั้นไม่มีผู้ใดรู้เลยว่าคำตัดสินนั้นคืออุบายของราชาโซโลมอน เมื่อได้ยินการประกาศของแพ้ของสตรีนางนั้นซาโลมอนจึงประกาศให้สตรีผู้ที่ถอนตัวเป็นแม่ของเด็กทารกในทันที โดยที่ว่ากันว่าสตรีอีกนางที่มิใช่แม่ของทารกนั้นคือปีศาจปลอมตัวมา
ด้วยความที่สติปัญญาของซาโลมอนนั้นเป็นที่เลื่องลือไปในอาณาจักรมากมาย อาณาจักรเหล่านั้นก็อยากรู้ถึงปัญญาของโซโลมอนผู้เป็นที่เลื่องลือนั้น และนี่เป็นเหตุให้อาณาจักรอิสราเอลได้เครื่องบรรณาการเป็นจำนวนมากทำให้อาณาจักรของพระองค์รุ่งเรื่องยิ่งกว่าอาณาจักรใดๆในโลก
ความโด่งดังของโซโลมอนนั้นมิได้ไปไกลแค่อาณาจักรรอบข้าง แต่ยังเลื่องลือไปยังดินแดนอื่น ๆ ไกลกระทั่งแม่แต่ราชินีชีบาในคาบสมุทรอาหรับยังได้รู้ถึงเรื่องนี้ ด้วยความสงสัยและอยากรู้อยากเห็นราชินีชีบาจึงเดินทางมาเพื่อชมความสง่างามของราชาผู้ยิ่งใหญ่และความมั่งคั่งของโซโลมอนว่าแท้จริงนั้นเป็นเรื่องหลอกลวงหรือไม่ และนางได้ทดสอบสติปัญญาอันล้ำลึกของโซโลมอนอีกด้วย และด้วยความประทับใจในสติปัญญาของโซโลมอนและความเจริญรุ่งเรืองของอิสราเอล นางจึงได้สรรเสริญพระยะโฮวาที่แต่งตั้งราชาผู้เฉลียวฉลาดขึ้นมาปกครองอาณาจักรแห่งนี้
มีรุ่งเรื่องก็ต้องมีวันเสื่อมถอย สิ่งนี้ไม่ว่าสิ่งใดในโลกก็มิอาจเลี่ยงได้ อาณาจักรของโซโลมอนผู้ทรงปัญญาเองก็ไม่มีข้อยกเว้นเมื่อโซโลมอนไม่ได้ทำตามสติปัญญาของพระยะโฮวาและไม่เชื่อฟังคำสั่งของพระเจ้า อาณาจักรแห่งนี้ก็เริ่มเสื่อมถอย การแต่งงานกับผู้หญิงนับร้อยทำให้โซโลมอนตีตัวออกห่างพระผู้เป็นเจ้าของตนเอง ดังสัญญาที่โซโลมอนได้ให้ไว้กับพระผู้เป็นเจ้า อาณาจักรของท่านเสื่อมถอยลง และลูกหลานมากมายของโซโลมอนก็แย่งชิงทรัพย์สมบัติของบรรพบุรุษของตนเองและอาณาจักรที่เคยรุ่งเรื่องที่สุดก็ล่มสลายลง
ตำนานที่เกี่ยวข้องกับโซโลมอน
ดวงตราแห่งซาโลมอน
ซาโลมอนมีแหวนมนตราวงหนึ่งที่เรียกว่า ดวงตราแห่งซาโลมอน (Seal of Solomon) เชื่อกันว่าซาโลมอนได้รับมอบแหวนวงนี้และมีอำนาจเหนือญินและปิศาจ เปรียบได้ดั่งแหวนแห่งอำนาจซึ่งสามารถบงการปีศาจในบัญชาได้ ในหลายตำนานระบุว่ามีหลายกลุ่มคณะเคยพยายามชิงหรือขโมยแหวนด้วยทางใดทางหนึ่งเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจมนตราแต่ไม่สำเร็จ
ซาโลมอนมีแหวนมนตราวงหนึ่งที่เรียกว่า ดวงตราแห่งซาโลมอน (Seal of Solomon) เชื่อกันว่าซาโลมอนได้รับมอบแหวนวงนี้และมีอำนาจเหนือญินและปิศาจ เปรียบได้ดั่งแหวนแห่งอำนาจซึ่งสามารถบงการปีศาจในบัญชาได้ ในหลายตำนานระบุว่ามีหลายกลุ่มคณะเคยพยายามชิงหรือขโมยแหวนด้วยทางใดทางหนึ่งเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจมนตราแต่ไม่สำเร็จ
กุญแจแห่งซาโลมอน
อันที่จริงไม่สามารถเรียกได้เต็มปากว่ามันเป็นกุญแจเพราะเนื้อแท้แล้วมันคือตำราไสยเวทมีโครงเรื่องที่ซาโลมอนได้จับกุมปิศาจต่างๆไว้ด้วยพลังจากแหวน "ดวงตราแห่งซาโลมอน"และก็บังคับให้ปิศาจพวกนั้นแนะนำชื่อเสียงเรียงนามของพวกมันแก่ตน ปีศาจเหล่านี้คือ72ปีศาจแห่งโซโลมอนที่รู้จักกันทั่วโลก ซึ่งด้วยอำนาจแห่งแหวนทำให้เหล่าปีศาจนั้นต้องทำตามคำสั่งของโซโลมอนอย่างเคร่งครัด กุญแจแห่งซาโลมอนนั้นอาจเรียกได้ว่าเป็นตำราเวทเล่มแรกๆที่ถูกสร้างขึ้นโลกด้วยนำ้มือมนุษย์เลยก็ว่าได้
อันที่จริงไม่สามารถเรียกได้เต็มปากว่ามันเป็นกุญแจเพราะเนื้อแท้แล้วมันคือตำราไสยเวทมีโครงเรื่องที่ซาโลมอนได้จับกุมปิศาจต่างๆไว้ด้วยพลังจากแหวน "ดวงตราแห่งซาโลมอน"และก็บังคับให้ปิศาจพวกนั้นแนะนำชื่อเสียงเรียงนามของพวกมันแก่ตน ปีศาจเหล่านี้คือ72ปีศาจแห่งโซโลมอนที่รู้จักกันทั่วโลก ซึ่งด้วยอำนาจแห่งแหวนทำให้เหล่าปีศาจนั้นต้องทำตามคำสั่งของโซโลมอนอย่างเคร่งครัด กุญแจแห่งซาโลมอนนั้นอาจเรียกได้ว่าเป็นตำราเวทเล่มแรกๆที่ถูกสร้างขึ้นโลกด้วยนำ้มือมนุษย์เลยก็ว่าได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น