เรื่องราวจากตำนานอัศวินโต๊ะกลม
กาลาฮัด อัศวินศักดิ์สิทธิ์เพียงผู้เดียวผู้คู่ควรกับจอกศักดิ์สิทธิ์
กาลาฮัด อัศวินศักดิ์สิทธิ์เพียงผู้เดียวผู้คู่ควรกับจอกศักดิ์สิทธิ์
ในฐานะคนที่เล่นเกมเฟทนั้นหลายๆคนคงจะคุ้นหูถึงคำว่า จอกศักดิ์สิทธิ์กันมาบ้างแหละ แต่หลายคนทราบไหมว่าจอกศักดิ์สิทธิ์นั้นก็มีตำนานที่คนทั่วไปรู้จักอย่างแพร่หลายเช่นกัน หนึ่งในนั้นก็คือ ตำนานกษัตริย์อาเทอร์นั่นเอง
แต่เสียใจด้วยวันนี้ผมไม่ได้มาพูดถึงกษัตริย์ผู้โด่งดังผู้นั้น และก็จะไม่มาพูดถึงเรื่องจอกศักดิ์สิทธิ์ด้วย วันนี้ผมจะมาพูดถึงอัศวินคนหนึ่งในสภาโต๊ะกลมของอาเทอร์ อัศวินเพียงผู้เดียวที่บริสุทธิ์พร้อมทั้งกายและใจ อัศวินเพียงคนเดียวที่คู่ควรกับจอกศักดิ์สิทธิ์
มาพูดถึงประวัติส่วนตัวกันก่อนดีกว่า กาลาฮัดนั้นเป็นบุตรของเซอร์ลันสล๊อตอัศวินหนึ่งในอัศวินที่กษัตริย์อาเทอร์ไว้วางใจที่สุด โดยมีมารดาคือ เอลีนแห่งคาร์บอเนค (Elaine of Carbonek) วัยเด็กของกาลาฮัดนั้นเขาถูดเลี้ยงดูโดยเหล่าแม่ชี 12 นาง ทำให้เขาเป็นอัศวินที่บริสุทธิ์จริงๆ(ถ้าเป็นสมัยนี้คงคิดอกุศลไปอย่างแน่นอน) เรื่องราวที่เป็นการยืนยันถึงความบริสุทธิ์ทั้งกายและใจของเขาเรื่องหนึ่งก็คือเหตุการณ์ที่เขาเข้าไปในสภาโต๊ะกลมครั้งแรก เมื่อเขามองหาที่นั่ง แล้วสายตาของไปเห็นว่ายังมีที่นั่งเหลืออยู่ 1 ที่
อันที่จริงที่นั่งนั้นถูกเรียกว่าเก้าอี้อันตรายครับ(the siege perilous) เก้าอี้ที่มีแต่อัศวินที่บริสุทธิ์เท่านั้นที่จะสามารถครอบครองได้ เก้าอี้ตัวนี้มีพร้อมกับโต๊ะกลมแล้วครับ ซึ่งเหล่าอัศวินโต๊ะกลมของอาเธอร์ก็ลองนั่งมาหมดทุกคนแล้ว แต่ไม่มีผู้ใดสามารถนั่งมันได้นานๆ ซึ่งตำนานของเจ้าเก้าอี้นี้ก็คือ ผู้ที่มีความบริสุทธิ์เท่านั้นจึงจะสามารถนั่งได้ ทำให้เหล่าอัศวินโต๊ะกลมทั้งหลายต้องยอมรับกันเลยทีเดียว
ความเก่งกาจของกาลาฮัดนั้นไม่ได้มีการอธิบายชี้วัดอย่างชัดเจน แต่เรื่องฝีมือของเขานั้นก็เก่งกาจอย่างแน่นอนเพราะการเดินทางของเขานั้นมักจะเดินทางกันเพียงคณะเดินทางเล็กๆเท่านั้น เรื่องราวของกาลาฮัดจะเกี่ยวข้องกับการเดินทางตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์โดยตรง เซอร์กาลาฮัด มักจะเดินทางไปพร้อมกับเพื่อนอัศวินอีก 2 นาย กับสตรีอีกหนึ่งนาง อัศวินที่ร่วมเดินทางไปกับเขาคือเซอร์บอร์กับเซอร์เพอซิวัล และสตรีที่เดินทางไปด้วยกันนั้นก็คือน้องสาวของเซอร์เพอซิวัล ซึ่งก่อนจะเริ่มการเดินทางกาลาฮัดได้รับโล่ห์สีขาวที่มีรูปกางเขนสีแดงอยู่ตรงกลางขซึ่งเขียนด้วยเลือดของ Joseph of Arimathea มาด้วย ซึ่งเหล่าคณะเดินทางของเขาเดินทางโดยใช้เรือของโซโลมอนเป็นยานพาหนะ ซึ่งระหว่างนี้กาลาฮัดได้รับดาบของดาวิดมาด้วย ทั้งหมดได้เดินทางรอนแรมมาเป็นเวลายาวนาน ซึ่งภายหลังจากการตายของน้องสาวของเซอร์เพอซิวัล อัศวินทั้งสามก็แยกทางกันค้นหาจอกศักดิ์สิทธิ์
พูดถึงจอกศักดิ์สิทธิ์กันสักเล็กน้อย จอกศักดิ์สิทธิ์ในตำนานนั้นเป็นสุดยอดของวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริง สามารถดลบันดาลให้เกิดความสุข ความเยาว์วัยชั่วนิรันดร์ หรือชีวิตอมตะได้ แต่ผู้ที่ไม่คู่ควรนั้นแม้แต่นิมิตก็อย่าหวังว่าจะได้เห็นเป็นบุญตา และผู้ที่คู่ควรจริงๆเท่านั้นถึงมีสิทธิที่จะแตะต้องมัน ซึ่งอาจหมายความว่าหากจิตใจต้องการหาประโยชน์จากมันแล้วก็คงจะอยู่ในข่ายไม่คู่ควรเช่นเดียวกัน จะว่าไปคล้ายๆกับค้อนของเทพสายฟ้าทอร์ในอเวนเจอร์เลยใช่ไหมล่ะ
ตามตำนานบางที่กล่าวไว้ว่า กษัตริย์อาเทอร์เองเคยเดินทางตามหาจอกศักดิ์สิทธ์เช่นกัน แต่เพราะต้องหน้าที่ของกษัตริย์และเป็นผู้คู่ควร เขาจึงไม่สามารถทำภารกิจตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์จนสำเร็จได้ และตายลงโดยไม่ได้เห็นจอกศักดิ์สิทธิ์แม้เพียงสักครั้ง
เมื่ออัศวินทั้งสามต่างเดินทางและทำภารกิจของพวกเขาจนบรรลุผลแล้วทั้งสามก็ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งจากการชี้นำของนิมิต ทั้งสามจึงเดินทางมาจนถึงปราสาทคาร์บอเนคและก็พบจอกศักดิ์สิทธิ์ แต่มีเพียงแค่กาลาฮัดเท่านั้นที่เห็นจอกศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริง ส่วนสหายทั้งสองของเขานั้นมองเห็นเพียงแค่ในนิมิต ซึ่งสาเหตุที่กาลาฮัดเห็นเพียงคนเดียวเนื่องจากเพราะเขาเป็นอัศวินที่บริสุทธิ์ที่แท้จริง (บริสุทธิ์ = ซิง) หลังจากนั้นอัศวินศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามก็ได้รับการอวยพรจาก โจเซฟแห่งอาริมาเทีย Joseph of Arimathea ผู้บริจาคหลุมฝังพระศพให้แก่พระเยซู โดยเขาได้มอบภารกิจแก่กาลาฮัดอีกหนึ่งอย่างโดยให้เขานำหอกโลหิต(Bleeding Spear)ไปรักษาราชาเพลเลสPellesผู้พิการซึ่งอาการผิดปกติของราชาเพลเลสก็หายเป็นปลิดทิ้งทันทีเมื่อได้รับการรักษาจากหองโลหิต เป็นอันว่ากาลาฮัดได้สำเร็จภารกิจไปอีกหนึ่งอย่าง
หลังจากภารกิจของเขาสิ้นสุดลง ด้วยศรัทธาที่เต็มเปี่ยมของกาลาฮัด เขาก็ได้เห็นภาพนิมิตของจอกศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง ตัวเขาที่เห็นนิมิตของจอกศักดิ์สิทธิ์ก็เฝ้าภาวนาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งทูตสวรรค์ได้ปรากฏกายเพื่อให้สัญญาว่าจะนำดวงวิญญาณของเขาไปหาพระเจ้าในเวลาที่เหมาะสม
และเมื่อถึงเวลาที่สมควรโจเซฟแห่งอาริมาเทีย Joseph of Arimathea ก็ได้เข้าไปพบกับกาลาฮัดและอนุญาตให้กาลาฮัดแตะต้องจอกศักดิ์สิทธิ์ได้ ทันทีที่เห็นจอกศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงอยู่เบื้องหน้ากาลาฮัดก็คุกเข่าลงและภาวนาขอพรต่อพระผู้เป็นเจ้า และทูตสวรรค์ได้ลงมาเพื่อรับดวงวิญญาณของเขาตามคำสัญญา
มาถึงตอนนี้หลายคนคงสงสัยว่าในหมู่อัศวินโต๊ะกลมไม่มีคนไหนที่คู่ควรกับจอกศักดิ์สิทธิ์เลยหรือ? ขอตอบตามความเห็นของผมคนเดียวเลยก็แล้วกันว่า ในโต๊ะกลมและหมู่อัศวินทั้งหลายต่างเป็นปุถุชนคนธรรมดา และทั้งหมดก็ต่างมีข้อบกพร่องที่เป็นมลทินกับตัวเองคนละข้อสองข้อ แม้กระทั่งกษัตริย์อาเทอร์เองก็ยังมีมลทินบางข้ออยู่เช่นกัน ทั้งหมดเลยไม่คู่ควรกับจอกศักดิ์สิทธิ์
เรียบเรียงโดย SALT ADMIN
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น