วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2562

แอสคลีเพียสเทพเจ้าแห่งการแพทย์ การรักษา




     กลับมาอีกครั้งกับการเล่าประวัติของเซอร์แวนท์ผ่านหน้าประวัติศาสตร์หรือตำนาน วันนี้ก็ผมจะมาเล่าประวัติเกี่ยวกับเซอร์แวนท์ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ โดยก่อนหน้านี้นั้นผมเองก็เคยได้เล่าประวัติของ"ฟลอเรนซ์ ไนติงเกล"ผู้เป็นผู้บุกเบิกด้านพยาบาลศาสตร์ยุคใหม่ไปแล้ว และวันนี้ผมจะขอเล่าเกี่ยวตำนานแพทย์ที่เก่งกาจที่สุดในตำนานกรีกนั่นก็คือแอสคลีเพียสผู้ได้รับฉายาเทพเจ้าแห่งการแพทย์ การรักษาและการฟื้นคืนชีพนั่นเอง
     เช่นเคยนะครับเรื่องราวที่ผมบอกเล่านี้จะเป็นการบอกเล่าจากตำนานกรีกโดยไม่อ้างอิงจากเนื้อเรื่องในเกม
     แอสคลีเพียส แอสคลีพิอุสหรือแอสเครพิออส (ทางละตินจะเขียนว่า Aesculapius แต่ทางกรีกจะเขียน Asklepios) เป็นผู้ถูกเรียกว่าเป็นเทพเจ้าแห่งการแพทย์ การรักษาและการฟื้นคืนชีพซึ่งมีตัวตนอยู่ในปกรณัมกรีกโดยเป็นบุตรชายของเทพแห่งพระอาทิตย์อพอลโลนั่นเอง(ดังเช่นบุตรแห่งสุริยะเทพตำนานหลากหลายประเทศผู้ที่เป็นบุตรแห่งสุริยะเทพมักจะตายเพราะความซวยของตัวเองกันเกือบหมดและยิ่งเป็นศิษย์ของไครอนด้วยแน่นอนว่าดังกระฉ่อนและดับอนาถแน่ๆ) แรกเริ่มเดิมทีนั้นฉายาเทพเจ้าแห่งการรักษานั้นเป็นของอพอลโลผู้เป็นบิดาของแอสคลีเพียสทว่าหลังจากนั้นตำแหน่งนี้ก็ถูกส่งต่อมาให้แอสคลีเพียสผู้เป็นบุตร
     แอสคลีเพียสนั้นเป็นลูกครึ่งมนุษย์กับเทพเจ้าโดยฝั่งพ่อก็คืออพอลโลและแม่คือโคโรนิสซึ่งเป็นธิดาของเจ้าครองนครหนึ่งในกรีก ทว่าโคโรนิสกลับนอกใจอพอลโล่ซึ่งทำให้อพอลโลเกิดโทสะดังนั้นเขาจึงขอให้เทพีแห่งดวงจันทร์อาทีมิสผู้เป็นพี่สาวสังหารทั้งเธอและชายชู้ ซึ่งในขณะนั้นแอสคลีเพียสครบกำหนดคลอดพอดีอาทีมิสจึงนำทารกออกมาจากครรภ์ของโคโรนิสให้จากนั้นก็ส่งต่อทารกน้อยให้กับไครอนผู้เป็นอาจารย์ของเหล่าวีรชนกรีกนำไปเลี้ยงดู
     ไครอนนันถือว่าเป็นสุดยอดของอาจารย์เขาเชี่ยวชาญทั้งวิชาการดนตรี เภสัชกรรมวิทยา วิชาธนูและอื่นๆอีกหลายอย่าง ซึ่งหลังจากรับแอสคลีเพียสมาเลี้ยงดูแล้วไครอนก็ได้เลี้ยงดูและสั่งสอนวิชาให้เขาซึ่งแอสคลีเพียสเติบโตและเป็นผู้ที่มีจิตใจดีโดยวิชาที่แอสคลีเพียสสนใจและได้เรียนรู้มาจากไครอนผู้เป็นอาจารย์นั้นก็คือเภสัชกรรมและวิชาแพทย์ ซึ่งแอสคลีเพียสได้เรียนรู้จนกระทั่งเก่งกว่าไครอนผู้เป็นอาจารย์และบิดาของตนซึ่งเป็นเทพแห่งการรักษาในสมัยนั้นเสียอีก ความเทพของแอสคลีเพียสที่เหนือกว่าอาจารย์และพ่อของเขาก็คือเขานอกจากเขาจะรักษาผู้ป่วยได้เป็นอย่างดีแล้วเขายังสามารถชุบชีวิตคนตายได้อีกด้วย
     และเพราะเหตุนี้แหละที่นำความซวยมายังตัวของเขาเองเมื่อการชุบชีวิตคนตายของแอสคลีเพียสไปทำให้วัฏจักรชีวิตของมนุษย์ผิดเพี้ยน เมื่อไม่มีคนตายลงมายมโลกวิญญาณที่จะไปเกิดก็ไปเกิดใหม่ไม่ได้และนั่นทำให้ฮาเดสจ้าวแห่งยมโลกต้องไปขอให้ซุสแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน และนั่นทำให้ซุสตัดสินใจที่ประทานความตายให้กับแอสคลีเพียสผู้บิดเบือนวัฏจักรชีวิตในทันที ซึ่งในบางตำนานได้กล่าวไว้ว่า ซุสเห็นว่าความเป็นนิรันดร์นั้นควรจะมีแค่เทพเจ้าเท่านั้นที่เป็นผู้ครอบครอง การที่มนุษย์ไม่มีวันตายนั้นนอกจากจะทำให้วัฏจักรชีวิตผิดเพี้ยนแล้วยังทำให้มนุษย์หยิ่งผยองและไม่ยำเกรงเทพเจ้าอีกด้วย
     ความตายของแอสคลีเพียสมีอีกหลายตำนาน บางตำนานได้กล่าวไว้ว่า เมื่อฮาเดสได้แจ้งเรื่องวัฏจักรชีวิตผิดเพี้ยนให้กับซุส ขณะที่ซุสตัดสินใจว่าจะลงมือนั้นอพอลโลผู้เป็นบิดาของแอสคลีเพียสและเป็นบุตรของซุสได้ขอให้ซุสเมตตาโดยอ้างว่าแอสคลีเพียสเป็นผู้มีจิตใจดีงามและทำการรักษาโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนดังนั้นการที่ซุสลงมือมอบความตายให้กับคนดีจะทำให้มหาเทพต้องมีมลทินเป็นที่ครหาของมวลมนุษย์ได้ซึ่งซุสเองก็เห็นด้วยกับอพอลโล่ ทว่ากลับมีเหตุการณ์ที่ทำให้ซุสต้องเปลี่ยนใจเพราะแอสคลีเพียสดันไปรับทองเป็นการตอบแทนที่นำฮิปโปไลตัสกลับมาจากความตายซึ่งซุสเองก็ตัดสินใจมอบสายฟ้าให้เป็นของสมนาคุณไปตามระเบียบ
     แอสคลีเพียสตายในทันทีเหมือนกับพี่น้องของตนเองซึ่งเป็นบุตรของอพอลโลทั้งหลาย เรื่องนี้สร้างความเจ็บแค้นให้กับอพอลโลอย่างมากแต่ด้วยเพราะตัวอพอลโลไม่สามารถชนะซุสได้เขาเลยหันไปหาตัวปัญหาที่สร้างสายฟ้ามาทำลายลูกๆทั้งหลายของเขาแทนซึ่งนั่นก็คือไซคลอปส์ ผลจากการกระทำนี้นั้นทำให้ซุสลงโทษโดยเอาอพอลโลไปแขวนไว้บนท้องฟ้าและลงโทษให้อพอลโลคอยรับใช้ราชาแอดมิตัส(Admetus)อีก 1 ปี ซึ่งภายหลังจากที่ซุสยอมยกโทษให้อพอลโลแล้ว ซุสก็ได้ชุบชีวิตไซคลอปส์ขึ้นมาอีกครั้งและเพื่อเป็นการให้เกียรติกับคุณงามความดีที่แอสคลีเพียสเคยกระทำไว้เจ้าสวรรค์ก็ได้นำร่างของแอสคลีเพียสไปไว้บนกลุ่มดาวที่มีชื่อว่า"กลุ่มดาวคนแบกงู"
     งูที่คอยกระซิบบอกอาการเจ็บป่วยของคนไข้ของแอสคลีเพียสนั้นเป็นงูที่ชื่อ"เอสคูลาเปียน"ซึ่งเป็นงูไม่มีพิษที่สามารถพบได้ทั่วไปในแถบเมดิเตอร์เรเนียนในปัจจุบัน แอสคลีเพียสนั้นนอกจากตัวเขาจะเป็นตัวแทนของการรักษาทางการแพทย์บุตรสาวและบุตรชายของเขาต่างก็มีความสำคัญเกี่ยวกับการแพทย์ด้วยเช่นกัน บุตรสาวของแอสคลีเพียส ไฮเจีย(Hygea)เป็นเทพีแห่งสุขอนามัยและความสะอาด ลาโซ(Laso)เป็นเทพีแห่งการฟื้นฟู อาเซโซ(Aceso)และแพนะเซีย (Panacea)นั้นเทพีแห่งการรักษา บุตรชายของเขาสองคนที่มีนามว่ามาเคออน(Machaon)และโพดาลิริอุส(Podalirius)เป็นศัลยแพทย์ทหารของกรีกซึ่งปรากฏอยู่ในสงครามเมืองทรอยที่โด่งดัง
     เรียกได้ว่าแอสคลีเพียสนั้นเป็นผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับวงการสุขอนามัยตั้งแต่บิดา อาจารย์หรือแม้กระทั่งครอบครัวเลยทีเดียว สัญลักษณ์ซึ่งเป็นคฑาที่เป็นสิ่งของคู่กายของเขานั้น ณ ปัจจุบันก็ยังมีผู้รู้จักถึงแม้ว่าตำนานเกี่ยวกับไม้คฑาชิ้นนี้จะยังคลุมเครือก็ตามที

เรียบเรียงโดย Salt Admin
ขอบคุณข้อมูลก่อนการเรียบเรียงจาก janghuman.wordpress.com และ th.wikipedia.org

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น